• ตอบกระทู้
  • ตั้งกระทู้ใหม่
QUOTE 

ถาม – ตอบ ความรู้ด้านความปลอดภัยด้านน้ำมันเชื้อเพลิง

เจ้าของร้าน

ถาม – ตอบ ความรู้ด้านความปลอดภัยด้านน้ำมันเชื้อเพลิง

1.พระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2543 ให้ความหมายของน้ำมันเชื้อเพลิงว่าอย่างไร
ตอบ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันหล่อลื่น และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นที่ใช้หรืออาจใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือเป็นสิ่งหล่อลื่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ หรือสิ่งอื่นที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการกลั่นหรือผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวข้างต้น และให้หมายความรวมถึงสิ่งอื่นที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือเป็นสิ่งหล่อลื่นตามที่รัฐมนตรีกำหนดให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

2.น้ำมันเชื้อเพลิง หมายถึง
ตอบ ของเหลวที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ หลังจากนั้นจึงนำมาปรับปรุงคุณภาพให้เหมาะสมต่อการใช้งาน เพื่อใช้เผาให้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ เครื่องเทอร์ไบน์ หรือใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ต้มน้ำในหม้อไอน้ำ (Boiler) ใช้ในเตาอบเครื่องปั้นดินเผา หรือในโรงงานเซรามิก และใช้ในการทำความร้อน ให้แสงสว่าง

3.น้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายในสถานีบริการมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ 2 ประเภท คือ
-น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน
-น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล

4.น้ำมันเบนซิน คือ
ตอบ น้ำมันเชื้อเพลิงส่วนที่เบาที่สุด ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ ส่วนนี้เรียกว่า แนฟธา (Naphtha) แล้วจึงนำมาปรับปรุงคุณภาพ ที่สำคัญคือการเพิ่มค่าออกเทน

5.น้ำมันเบนซินปัจจุบันมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ 2 ประเภท คือ น้ำมันเบนซินรถยนต์ (Motor Gasoline) และน้ำมันเบนซินอากาศยาน (Aviation Gasoline) ซึ่งทั้งสองประเภทนี้มีข้อแตกต่างกันตรงที่น้ำมันอากาศยานจะมีค่าออกเทนสูง กว่าน้ำมันเบนซินรถยนต์มาก

6.น้ำมัน เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล มีกี่ชนิด
ตอบ 2 ชนิด คือ น้ำมันดีเซล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว แต่ในสถานีบริการทั่วไป จะจำหน่ายเฉพาะ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วเท่านั้น

7.น้ำมันเชื้อเพลิง มีกี่ชนิด อะไรบ้าง
ตอบ 2 ชนิด คือ
1.น้ำมันจากฟอสซิล หรือน้ำมันปิโตรเลียม และ
2.น้ำมันจากพืชหรือสัตว์
น้ำมันจากฟอสซิลหรือน้ำมันปิโตรเลียม >> เป็นเชื้อเพลิงสิ้นเปลือง ซึ่งสูบขึ้นมาจากใต้ดินและนำมาผ่านกระบวนการกลั่น โดยใช้ความร้อนสูง จะได้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกมา เช่น น้ำมันเบนซิน แก๊สปิโตรเลียมเหลว น้ำมันก๊าด น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา เป็นต้น เพื่อใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงกับเครื่องยนต์ต่างๆ และเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม น้ำมันที่ได้นี้ ไม่สามารถนำมาบริโภคและมีโอกาสหมดลงได้
นักธรณีวิทยา คาดการณ์ว่า หากไม่มีการสำรวจเพิ่มเติมพลังงานฟอสซิลสำรองของโลกที่มีอยู่อย่างจำกัดก็จะหมดลงไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ในขณะที่น้ำมันเชื้อเพลิงกำลังลดจำนวนลงแต่ปริมาณความต้องการของมนุษย์กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทั่วโลกต่างค้นหาพลังงานที่จะนำมาใช้ทดแทนน้ำมันจากฟอสซิลนี้ ซึ่งหนึ่งในทางออกก็คือ น้ำมันจากพืช นั่นเอง
(2) น้ำมันเชื้อเพลิงจากพืชหรือสัตว์ เป็นน้ำมันที่ใช้สำหรับการบริโภคซึ้นค้นพบว่า มีพืชอยู่หลายชนิดด้วยกัน ที่สามารถให้น้ำมันได้ อีกทั้งยังสามารถนำน้ำมันไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น ใช้ทาสี ทำน้ำผสมสี ทำยารักษาโรค เครื่องสำอาง สบู่ ผงซักฟอก หนังเทียม พลาสติก และยังสามารถนำมาใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงหรือน้ำมันหล่อลื่นได้อีกด้วย
น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากพืชนั้น นอกจากจะได้จากการสกัดจากพืชน้ำมันโดยตรง เช่น มะพร้าว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ปาล์มน้ำมัน งา ละหุ่ง เมล็ดทานตะวัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถได้จากพืชที่ให้แป้งและน้ำตาล เช่น มันสัมปะหลัง ฝักข้าวโพด อ้อย ข้าวฟ่างหวาน ชานอ้อย กากน้ำตาล ฟางข้าว เป็นต้น

8.ในปัจจุบันน้ำมันเบนซินที่ใช้กับเครื่องยนต์ทั่วไปในประเทศไทยแบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
ตอบ
-น้ำมันเบนซินธรรมดา (Regular gasoline) กำหนดให้มีค่าออกเทนไม่ต่ำกว่า 83 ปริมาณสารตะกั่วไม่เกิน 0.15 กรัมต่อลิตร ควรใช้กับเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนการอัด (Compression ratio) ต่ำกว่า 8:1 เช่น รถยนต์รุ่นเก่า เครื่องยนต์ขนาดเล็ก รถจักรยานยนต์ เครื่องตัดหญ้า เป็นต้น
-น้ำมันเบนซินพิเศษ (Premium gasoline) กำหนดให้มีค่าออกเทนไม่ต่ำกว่า 95 ปริมาณสารตะกั่วไม่เกิน 0.15 กรัมต่อลิตร ควรใช้กับเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนการอัดประมาณ 8:1 ขึ้นไป เช่น รถยนต์นั่ง รถบรรทุกเล็ก รถจักรยานยนต์ เป็นต้น
-น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว (Unleaded gasoline) กำหนดให้มีค่าออกเทนไม่ต่อกว่า 95 ปริมาณสารตะกั่วไม่เกิน 0.013 กรัมต่อลิตร เป็นน้ำมันที่เพิ่มค่าออกเทนโดยการนำน้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางโมเลกุลเพื่อให้มีค่าออกเทนสูงขึ้น โดยพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สารประกอบของตะกั่วให้น้อยที่สุดหรือไม่ต้องใช้เลย ควรใช้กับเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนการอัดประมาณ 8:1 ขึ้นไป เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินชนิดพิเศษ แต่ควรเป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีการออกแบบการใช้โลหะชนิดพิเศษในการทำบ่าลิ้น (Value seat) ของเครื่องยนต์ เพราะสารตะกั่วจะช่วยลดการสึกหรอของบ่าลิ้น ดังนั้น เครื่องยนต์ที่จะใช้กับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วได้จึงต้องออกแบบสร้างบ่าลิ้นมาเป็นพิเศษ เครื่องยนต์ที่ติดตั้งเครื่องกรองไอเสีย (Catalytic converter) ก็ต้องใช้น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วเท่านั้น เพราะถ้าใช้น้ำมันเบนซินที่ผสมสารตะกั่วมากจะทำให้ระบบเครื่องกรองไอเสียใช้งานไม่ได้

9.ค่าออกเทน หมายถึงอะไร
ตอบ คุณสมบัติของน้ำมันเชื้อเพลิงที่แสดงถึงความสามารถในการต้านทานการชิงจุดระเบิดก่อนเวลาที่กำหนดในเครื่องยนต์เบนซิน อีกนัยหนึ่งคือตัวเลขแสดงความต้านทานการน็อคของน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์เบนซิน เนื่องจากการเพิ่มอุณหภูมิ ภายในบริเวณของส่วนผสมอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่กำลังถูกอัดโดยคลื่นเปลวไฟ ก่อนกระบวนการเผาไหม้จะสิ้นสุดภายใน กระบอกสูบของเครื่องยนต์ การน็อคทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์แต่ละแบบจะมีค่าออกเทนไม่เท่ากัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์

10.การใช้น้ำมันเบนซินอันตรายต่อสุขภาพอย่างไร
ตอบ 1. ทางเข้าสู่ร่างกายระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง การสัมผัสดวงตา และการกลืนกิน
ผลจากการสัมผัสสารที่มีปริมาณมากเกินไปในระยะสั้น การสัมผัสทางการหายใจที่ความเข้มข้นสูง ไอระเหยจะระคายเคืองเยื่อบุเมือก อาจทำให้ปวดศีรษะและวิงเวียน อาจสลบหรือมีอาการทางระบบประสาทส่วนกลางอื่นๆ ร่วมด้วย ไอระเหยอาจทำให้ขาดออกซิเจนได้หากมีความเข้มข้นสูงพอ การสัมผัสทางผิวหนังมีความเป็นพิษต่ำแต่ทำให้ระคายเคือง และผิวหนังสูญเสียไขมันซึ่งอาจทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบได้ การสัมผัสทางดวงตาทำให้ระคายเคืองได้แต่ไม่ทำลายเนื้อเยื่อดวงตาการกลืนกินมีความเป็นพิษต่ำ แต่ถ้าหากมีสารไปในปอดในระหว่างการกลืนกิน หรือการอาเจียนจะทำให้เป็นอันตรายต่อปอดอย่างรุนแรง อาจทำให้เสียชีวิตได้
ผลจากการสัมผัสสารที่มีปริมาณมากเกินไปในระยะกลางและระยะยาวมีส่วนผสมของ benzene ซึ่งจากการศึกษาทางระบาดวิทยา ในมนุษย์พบว่าการสัมผัสซ้ำๆ หรือนานๆ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบผลิตเม็ดเลือดและระบบเลือดอย่างรุนแรง อาจเกิดมะเร็งเม็ดเลือดได้ (leukemia) จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าการสัมผัส benzene ซ้ำๆ หรือนานๆจะเป็นอันตรายต่อทารกหรือตัวอ่อนในครรภ์ได้ แต่ยังไม่ได้มีการทดสอบในมนุษย์สารเคมีนี้มีส่วนผสมของ n-hexane ซึ่งการสัมผัสซ้ำๆ หรือนานจะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาทส่วนปลาย เช่น นิ้วเท้า แขนได้

 

 

 

********************************

 

ติดตามข่าวสารสอบราชการได้ที่

เว็บไซต์ : คลิ๊กลิงค์

http://www.แนวข้อสอบรับราชการ.com

Line : คลิ๊กลิงค์

http://line.me/ti/p/@kpu2250k

Twitter : คลิ๊กลิงค์

ttps://twitter.com/kpu225ok 

Facebook : คลิ๊กลิงค์

https://www.facebook.com/korsobrajchakarn

 

 

********************************

 

แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

WEBBOARD

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม237,768 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด188,632 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท9 ก.ย. 2568

CATEGORY

MEMBER

รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านแนวข้อสอบรับราชการ
แนวข้อสอบรับราชการ
## จำหน่าย แนวข้อสอบราชการ สรุปเนื้อหาอ่านเข้าใจง่าย ตรงประเด็นที่สอบ แนวข้อสอบ พร้อมเฉลย สำหรับผู้ที่มีเวลาเตรียมตัวน้อย ##
เบอร์โทร : 0955313123
อีเมล : ่่j.phattara@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม