ฟรีแนวข้อสอบเก่าเจ้าพนักงานสรรพากร เจ้าพนักงานธุรการ กรมสรรพากร
1. ปี 2554 อยู่ในช่วงแผนพัฒนาฉบับใด
1. ฉบับที่ 8
2. ฉบับที่ 9
3. ฉบับที่ 10
4. ฉบับที่ 11
ตอบ 3 แผนพัฒนาฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554)
2. ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการขายสินค้าและบริการต่างกันหรือไม่อย่างไร
1. ไม่แตกต่างกันคือทั้งสองกรณีเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้า
2. ไม่แตกต่างกันคือทั้งสองกรณีเกิดขึ้นเมื่อมีการชำระค่าบริการ
3. แตกต่างกันคือกรณีการขายสินค้าเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้า ส่วนกรณีการให้บริการเกิดขึ้นเมื่อมีการชำระค่าบริการ
4. แตกต่างกันคือกรณีการขายสินค้าเกิดขึ้นเมื่อมีการชำระค่าบริการ ส่วนกรณีการให้บริการเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้า
ตอบ 3 ความรับผิดทางภาษี (Tax Point) แตกต่างกันคือกรณีการขายสินค้าเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้า ส่วนกรณีการให้บริการเกิดขึ้นเมื่อมีการชำระค่าบริการประมวลรัษฎากร
มาตรา 78 ภายใต้บังคับมาตรา 78/3 ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากการขายสินค้า ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) การขายสินค้านอกจากที่อยู่ในบังคับตาม (2) (3) (4) หรือ (5) ให้ความรับผิดทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อส่งมอบสินค้า เว้นแต่กรณีที่ได้มีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนส่งมอบสินค้าก็ให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อได้มีการกระทำนั้น ๆ ด้วย
(ก)โอนกรรมสิทธิ์สินค้า
(ข) ได้รับชำระราคาสินค้า หรือ
(ค) ได้ออกใบกำกับภาษี
ทั้งนี้ โดยให้ความรับผิดเกิดขึ้นตามส่วนของการกระทำนั้น ๆ แล้ว
มาตรา 78/1 ภายใต้บังคับมาตรา 78/3 ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากการให้บริการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) การให้บริการนอกจากที่อยู่ในบังคับตาม (2) (3) หรือ (4) ให้ความรับผิดทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระราคาค่าบริการ เว้นแต่กรณีที่ได้มีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนได้รับชำระราคาค่าบริการก็ให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อได้มีการกระทำนั้น ๆ ด้วย
(ก) ได้ออกใบกำกับภาษี หรือ
(ข) ได้ใช้บริการไม่ว่าโดยตนเองหรือบุคคลอื่น
ทั้งนี้ โดยให้ความรับผิดเกิดขึ้นตามส่วนของการกระทำนั้น ๆ แล้วแต่กรณี
3. ผู้ใดไม่มีหน้าที่ขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1. ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
2. กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
3. มูลนิธิสมาคมที่เป็นองค์การหรือสาธารณกุศล
4. หน่วยงานของราชการผู้จ่ายเงินได้
ตอบ 3 มูลนิธิสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสาธารณกุศลไม่มีหน้าที่ขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดา
4. การขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดามีการออกเลขประจำตัวอย่างไร
1. ใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน
2. ใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรราชการ
3. ใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน บัตรราชการ หรือบัตรประกันสังคม
4. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1
5. กรณีเกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เสียภาษีไม่สามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้ภายในเวลากำหนด กรมสรรพากร มีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพื่อมิให้ผู้เสียภาษี ต้องถูกเรียกเก็บเงินเพิ่ม เบี้ยปรับ และค่าปรับทางอาญา
1. ออกประกาศกรมสรรพากรยกเว้นการยื่นแบบเฉพาะกรณีไป
2. เก็บเงินเพิ่ม เบี้ยปรับ และค่าปรับทางอาญาเพียงกึ่งหนึ่ง ถ้ายื่นแบบล่าช้า
3. ผ่อนผันให้เฉพาะกรณีมีการยื่นคำขอและมีเหตุผลสมควรเท่านั้น
4. ขยายกำหนดเวลาการนำส่งและการยื่นรายการภาษี โดยไม่ต้องเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับอาญา
ตอบ 4
6. เงื่อนไขการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องมีภาษีที่ขอคืนไม่ต่ำกว่าเท่าใด และภายในเวลาใด
1. ไม่ต่ำกว่า 50 บาท ภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดยื่นแบบแสดงรายการภาษีสำหรับเดือนภาษี
2. ไม่ต่ำกว่า 100 บาท ภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดยื่นแบบแสดงรายการภาษีสำหรับเดือนภาษี
3. ไม่ต่ำกว่า 150 บาท ภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดยื่นแบบแสดงรายการภาษีสำหรับเดือนภาษี
4. ไม่ได้กำหนดจำนวนขั้นต่ำไว้ โดยขอคืนภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดยื่นแบบแสดงรายการภาษีสำหรับเดือนภาษี
ตอบ 4 การขอคืนภาษีตามมาตรา 84/1 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องขอคืนภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดยื่นแบบแสดงรายการภาษีสำหรับเดือนภาษี โดยไม่ได้กำหนดเงินขั้นต่ำไว้
7. ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาได้รับการยกเว้นเท่าใด
1. 1.5 หมื่นบาท
2. 3 หมื่นบาท
3. 5 หมื่นบาท
4. 1 แสนบาท
ตอบ 1 เบี้ยประกันสุขภาพบิดา มารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส (กรณีคู่สมรสไม่มีเงินได้) หักได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้บิดา มารดาที่มีสิทธิหักค่าลดหย่อน บิดา มารดา ต้องมีเงินได้ในปีภาษีที่หักลดหย่อนไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไป ผู้มีเงินได้หรือคู่สมรสต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย (บุตรบุญธรรมไม่มีสิทธิ์ยกเว้นฯ) ให้ยกเว้นเฉพาะเบี้ยประกันสุขภาพ บิดา มารดาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
8. ข้อใดมิใช่รายได้ที่ยกเว้นภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุน
1. การขายสลากกินแบ่งรัฐบาล
2. เงินได้จากการขายข้าวของชาวนา
3. เงินได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
4. เงินได้จากการลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก
ตอบ 1 เงินได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ได้ยกเว้นภาษี แต่ถ้าเป็นสลากเพื่อการกุศลจะได้รับยกเว้นภาษี จึงไม่ถือเป็นภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุน
9. การทำงานของกรมสรรพากรเพื่อสร้างความเข้าใจทางบวก ต้องเริ่มจากเยาวชนระดับใด
1. ก่อนปฐม
2. ปฐมศึกษา
3. มัธยมศึกษา
4. อุดมศึกษา
ตอบ 2
10. ผู้ที่มี “รายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ” ในความหมายของกรมสรรพากรหมายถึง
1. 3 หมื่นบาท
2. 5 หมื่นบาท
3. 1 แสนบาท
4. 1.5 แสนบาท
ตอบ 1
11. ข้อใดมิใช่หน้าที่ของผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. เรียกเก็บภาษีจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
2. จัดทำรายงานตามที่กฎหมายกำหนด
3. ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี
4. จัดทำใบกำกับภาษี
ตอบ 4 หน้าที่ของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบด้วย
12. ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA) ที่ผ่านการสอบและได้รับใบอนุญาตจากกรมสรรพากร มีอำนาจรับรองเพียงใด
1. รับรองห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 3,000,000 บาท และมีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปีใดไม่เกิน 30,000,000 บาท
2. รับรองห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 4,000,000 บาท และมีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปีใดไม่เกิน 30,000,000 บาท
3. รับรองห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 5,000,000 บาท และมีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปีใดไม่เกิน 30,000,000 บาท
4. รับรองห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 6,000,000 บาท และมีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปีใดไม่เกิน 30,000,000 บาท
ตอบ 3 หน้าที่ของผู้สอบบัญชีภาษีอากร ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรอาศัยอำนาจตามมาตรา 3 แห่งประมวลรัษฎากร โดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี เรื่อง กำหนด ระเบียบเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี ลงวันที่ 12 มีนาคม 2544 กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทุกขนาดกิจการ ต้องมีการตรวจสอบและรับรองบัญชีเพื่อประโยชน์แห่งการเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ที่สิ้นสุดในหรือหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2545 ดังนี้
1. “ผู้สอบบัญชีภาษีอากร” (TA) ที่ขอขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมสรรพากร ให้เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีเฉพาะห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 5,000,000 บาท และมีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปีใดไม่เกิน 30,000,000 บาท และมีทรัพย์สินรวมในรอบระยะเวลาบัญชีปีใดไม่เกิน 30,000,000 บาท หรือห้างหุ้นส่วนขนาดเล็ก
2. “ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต” (CPA) เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีสำหรับบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ทั้งที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ทุกขนาดกิจการ รวมทั้งกิจการร่วมค้าหน้าที่สำคัญในการตรวจสอบและรับรองบัญชีที่สำคัญก็คือ ตรวจสอบและรับรองว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีการจัดทำบัญชีให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปหรือมาตรฐานการบัญชี หรือไม่ อันเป็นหลักการทั่วไปตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี เนื่องเพราะ กรมสรรพากรมีแนวคิดพื้นฐานว่า หากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดจัดทำบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีแล้ว ก็ชอบที่จะเสียภาษีอากรให้ถูกต้องเช่นเดียวกัน
13. ผู้ส่งออกเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไร
1. ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. เสียในอัตรา 0 เปอร์เซ็นต์
3. เสียในอัตรา 3 เปอร์เซ็นต์
4. เสียในอัตรา 7 เปอร์เซ็นต์
ตอบ 2 อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นดังนี้
14. ผู้นำเข้าเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไร
1. ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. เสียในอัตรา 0 เปอร์เซ็นต์
3. เสียในอัตรา 3 เปอร์เซ็นต์
4. เสียในอัตรา 7 เปอร์เซ็นต์
ตอบ 4 โดยปกติต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นสินค้านำเข้าบางประเภท เช่น วัตถุดิบอัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าวัตถุดิบในเขตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก สินค้าทางการเกษตร ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
15. ข้อใดไม่ถือเป็นสาระสำคัญในใบกำกับภาษี
1. ถ้อยคำที่ว่า “สำเนาคู่ฉบับ/ลายมือชื่อผู้ขาย”
2. คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
3. ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
4. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
ตอบ 1 มาตรา ๘๖/๔ ภายใต้บังคับมาตรา ๘๖/๕ และมาตรา ๘๖/๖ ใบกำกับภาษีต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(๑) คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
(๒) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษีและในกรณีที่ตัวแทนเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา ๘๖ วรรคสี่ หรือมาตรา ๘๖/๒ หรือผู้ทอดตลาดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา ๘๖/๓ ให้ระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของตัวแทนนั้นด้วย
(๓) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
(๔) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี
(๕) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
(๖) จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง
(๗) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
(๘) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด
มาตรา ๘๖/๖ ใบกำกับภาษีอย่างย่อต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(๑) คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
(๒) ชื่อ หรือชื่อย่อ และเลขประจำผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี
(๓) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี
(๔) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
(๕) ราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการ โดยต้องมีข้อความระบุชัดเจนว่าได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้ว
- 56 -
(๖) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
(๗) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด
16. เงินได้จากการส่งไปรษณีย์ทายผลชิงโชคต่างๆ เป็นเงินได้ประเภทใด
1. ประเภทที่ 2
2. ประเภทที่ 4
3. ประเภทที่ 7
4. ประเภทที่ 8
ตอบ 4 ประเภทที่ 8 โดยถือเป็นเงินได้อื่นนอกจากที่ระบุไว้ในประเภท (1) ถึง (7)
มาตรา ๔๐ เงินได้พึงประเมินนั้น คือ เงินได้ประเภทดังต่อไปนี้รวมตลอดถึงเงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้สำหรับเงินได้ประเภทต่าง ๆ ดังกล่าว ไม่ว่าในทอดใด
“………”
(เจ๋ง เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (1) ถึง (7) แล้ว
17. ความหมายของ “ภาษีการขาย” ข้อใดผิด
1. ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้เรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
2. ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่เสียในกรณีที่เป็นการขายสินค้า
3. ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่เสียกรณีที่เป็นการให้บริการ
4. ไม่มีข้อใดผิด
ตอบ 4 มาตรา ๗๗/๑ ให้หมวดนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น
“………”
(๑๗) “ภาษีขาย” หมายความว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้เรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการตามมาตรา ๘๒/๔ วรรคหนึ่ง และภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่เสียในกรณีที่เป็นการขายสินค้าตาม (ง) (จ) (ฉ) หรือ (ช) ของ (๘) หรือในกรณีที่เป็นการให้บริการตาม (๑๐) แต่ไม่รวมถึงภาษีที่ต้องเสียตามมาตรา ๘๒/๑๖
18. การออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย เงินได้ประเภทที่ 1 ต้องออกภายในกำหนดใด
1. ภายในวันที่ 1 มกราคมของปีถัดจากปีภาษี
2. ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของปีถัดจากปีภาษี
3. ออกในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย
4. ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย
ตอบ 2 มาตรา ๕๐ ทวิ ให้ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายที่ได้หักไว้แล้วในปีภาษี ให้แก่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายสองฉบับมีข้อความตรงกัน ในกรณีและตามกำหนดเวลา ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีตามมาตรา ๓ เตรส ให้ออกในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย
(๒) ในกรณีตามมาตรา ๕๐ (๑) ให้ออกภายในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ของปีถัดจากปีภาษี หรือภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายออกจากงานในระหว่างปีภาษี
(๓) ในกรณีตามมาตรา ๕๐ (๒) (๓) หรือ (๔) ให้ออกในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย
มาตรา ๕๐ ให้บุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคม หรือคณะบุคคลผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ หักภาษีเงินได้ไว้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมินตามวิธีดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๑) และ (๒) ….”
(๒) ในกรณีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๓) และ (๔) ….”
(๓) ในกรณีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๕) และ (๖) ….”
“……….”
มาตรา ๓ เตรส ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีให้อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ ซึ่งไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายตามลักษณะ ๒ หักภาษี ณ ที่จ่ายตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและอัตราที่กำหนดโดยกฎกระทรวง ในการนี้ให้นำมาตรา ๕๒ มาตรา ๕๓ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๕๘ มาตรา ๕๙ มาตรา ๖๐ และมาตรา ๖๓ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
19. นิยาม “ขาย” ตามข้อใดไม่ใช่นิยามดังกล่าวในประมวลรัษฎากร
1. จำหน่าย จ่าย โอนสินค้า เฉพาะที่มีประโยชน์หรือค่าตอบแทน
2. ส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักร
3. ซื้อขายผ่อนชำระที่กรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่โอนไปยังผู้ซื้อเมื่อได้ส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อแล้ว
4. ส่งมอบสินค้าให้ตัวแทนเพื่อขาย
ตอบ 1 มาตรา ๗๗/๑ ในหมวดนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น
- 58 -
“………”
(๘) “ขาย” หมายความว่า จำหน่าย จ่าย โอนสินค้า ไม่ว่าจะมีประโยชน์หรือค่าตอบแทนหรือไม่ และให้หมายความรวมถึง
(ก) สัญญาให้เช่าซื้อสินค้า สัญญาซื้อขายผ่อนชำระที่กรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่โอนไปยังผู้ซื้อเมื่อได้ส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อแล้ว หรือสัญญาจะขายสินค้าที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี
(ข) ส่งมอบสินค้าให้ตัวแทนเพื่อขาย
(ค) ส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักร
(ง) นำสินค้าไปใช้ไม่ว่าประการใด ๆ เว้นแต่การนำสินค้าไปใช้เพื่อการประกอบกิจการของตนเองโดยตรงตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด
(จ) มีสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบตามมาตรา ๘๗ (๓) หรือมาตรา ๘๗ วรรคสอง
(ฉ) มีสินค้าคงเหลือและหรือทรัพย์สินที่ผู้ประกอบการมีไว้ในการประกอบกิจการ ณ วันเลิกประกอบกิจการ แต่ไม่รวมถึงสินค้าคงเหลือและหรือทรัพย์สินดังกล่าวของผู้ประกอบการซึ่งได้ควบเข้ากันหรือได้โอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการใหม่ อันได้ควบเข้ากันหรือผู้รับโอนกิจการต้องอยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๘๒/๓
(ช) กรณีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
20. นำผลไม้เข้าจากประเทศจีนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
1. ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. เสียในอัตรา 0 เปอร์เซ็นต์
3. เสียในอัตรา 3 เปอร์เซ็นต์
4. เสียในอัตรา 7 เปอร์เซ็นต์
ตอบ 1 การนำเข้าผักผลไม้พืชผลทางการเกษตรได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ตามมาตรา 81(2) (ก) (ข) ประกอบ 81(1)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร
**********************************************
สนใจติดต่อสั่งซื้อ ได้ที่
คุณ (นิคส์)
TEL: 080-2513744
LINE: @kpu2250k (เติม@ด้วยนะ) ^_^
ติดตามข่าวสารสอบราชการได้ที่
LnwShop : http://www.แนวข้อสอบรับราชการ.com
Line : http://line.me/ti/p/@kpu2250k
Facebook : https://www.facebook.com/korsobrajchakarn
Google+ : https://plus.google.com/+แนวข้อสอบรับราชการ
**********************************************
หน้าที่เข้าชม | 237,768 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 188,632 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |